กสทช.ปูพื้นฐานความรู้ค่ายวิทยุ-ทีวี ก่อนแจกใบอนุญาตปี 55
กสทช.เร่งปูพื้นฐานความรู้ค่ายวิทยุและโทรทัศน์ ก่อนแจกใบอนุญาตช่วงไตรมาส 2-3 ปี 55 ระบุ อุตสาหกรรมวิทยุและโทรทัศน์มีมูลค่าตลาดรวม 6 หมื่นล้าน และมีผู้ประกอบการมากกว่า 1 หมื่นรายทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า การประชุมสร้างความเข้าใจทิศทางและแนวนโยบายการดำเนินงานของ กสท. ต่อผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์นั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการวิทยุและโทรทัศน์ เข้าใจการดำเนินการเมื่อการจัดตั้ง กสทช.แล้วเสร็จ ซึ่งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ในบทเฉพาะกาลมาตรา 82 และ 83 ที่ผู้ประกอบการที่ใช้คลื่นความถี่ จะต้องรายงานให้ กสทช.รับทราบถึงการครอบครองและการใช้คลื่นดังกล่าว
"กสท.ได้กำหนดกรอบเวลาการดำเนินงานว่า ภายใน 6 เดือนข้างหน้า กรอบหลักเกณฑ์การให้รายงานการครอบครองและการใช้คลื่นแล้วเสร็จ หลังจากนั้น 3 เดือน ก็จะให้ผู้ประกอบการรายงานการใช้คลื่นความถี่ตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศ และอีก 3 เดือนถัดไป ถ้าผู้ประกอบการรายใดมีความพร้อม ก็จะแจกใบอนุญาตประกอบกิจการให้ภายในไตรมาส 3 ปี 2555 ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ เช่น เคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม ก็จะเริ่มทยอยแจกใบอนุญาตได้ภายไตรมาส 2 ปี 2555"
พ.อ.นที กล่าวต่อว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมวิทยุและโทรทัศน์ มีมูลค่าตลาดรวม 60,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบการมากกว่า 10,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งมีตั้งแต่รายเล็ก รายกลางและรายใหญ่ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจร่วมกันระหว่าง กสทช.กับผู้ประกอบการ ที่จะสร้างหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน เพื่อมิให้เกิดปัญหาฟ้องร้องกันในอนาคต
ด้าน พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.จะจัดประชุมสัมมนาเพื่อทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไร ภายใต้บทเฉพาะกาลมาตรา 82 และ 83 ของ พ.ร.บ.กสทช. เพราะผู้ประกอบการก็ต้องการความชัดเจนจาก กสทช. โดยจะได้เดินทางไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการทุกรายในประเทศ โดยเริ่มที่กรุงเทพฯก่อน หลังจากนั้นจะเดินทางไปภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ คาดว่าภายในเดือน ม.ค. 2555 จะสามารถทำความเข้าใจได้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่นายสุระ เกนทะนะศีล รักษาการกรรมการผู้อำนวยใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อสมท. ได้เตรียมพร้อมรับมือ เมื่อมี กสทช.มาโดยตลอด โดยสิ่งที่ยังกังวลคือ คลื่นวิทยุที่มีอยู่ 62 สถานีนั้น อสมท.ก็ยังชี้แจงว่า มีเหตุผลที่ยังคงต้องใช้งานต่อไป แต่หากต้องคืน ก็อาจคืนเพียง 1 ใน 4 ของคลื่นที่ใช้งานอยู่ หรือเพียง 10 แห่งเท่านั้น ซึ่งจะเป็นคลื่นที่ไม่สามารถสร้างรายได้ให้ อสมท. แต่คลื่นใดที่สร้างรายได้ให้ อสมท. ทาง อสมท. ก็ต้องชี้แจงความจำเป็นของการใช้คลื่นนั้นต่อไป
Tweet
ที่มา : www.thairath.co.th
วันที่ 13 Dec 2011 - 18:00