วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพชรเกษมน้ำยังท่วมสูง บางจุดลึก 1.20 ม.

 

เพชรเกษมน้ำยังท่วมสูง บางจุดลึก 1.20 ม.

ถนนเพชรเกษมน้ำยังท่วมสูง หน้าเดอะมอลล์บางแค น้ำลดลงมาก แต่ก็ยังสูงเกือบ 1 เมตร เส้นขาออกน้ำขัง 60-70 ซม. หมู่บ้านเศรษฐกิจน้ำลดไม่มาก บางจุดยังท่วมสูง 1.20 เมตร ชาวบ้านรวมตัวที่สนามเด็กเล่นกลางหมู่บ้าน ประชาชนยังยิ้มได้แม้ถูกน้ำท่วมนานนับเดือน 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมบนถนนเพชรเกษมตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์บางแค จนถึงซอยเพชรเกษม 102/2 ปากทางเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ พบว่า ระดับน้ำบนผิวการจราจรเริ่มลดลงแล้ว โดยเฉพาะช่วงบริเวณหน้าห้างเดอะมอลล์บางแค ซึ่งลดลงไปมากแต่พื้นที่เป็นแอ่งทำให้ยังคงมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์ขนาดเล็กและ รถ จยย.ยังไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่ถนนเพชรเกษมขาเข้าในช่วงแยกพุทธมณฑล สาย 2 บางจุดน้ำเริ่มแห้งสนิทมีชาวบ้านที่อาศัยติดริมถนนทยอยอพยพกลับมาทำความสะอาดบ้านพักเพื่อเตรียมเปิดกิจการและใช้ชีวิตประจำวันกันตามปกติ

 


ส่วนถนนเพชรเกษมขาออกนั้นสภาพยังไม่ดีเท่าที่ควรยิ่งตามตรอกซอกซอยเข้าหมู่บ้าน ที่ส่วนใหญ่พื้นดินต่ำกว่าพื้นผิวการจราจร ชาวบ้านยังต้องทนทุกข์กับปัญหาน้ำท่วมขังสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตรอีกต่อไป คาดว่าช่วงสิ้นเดือน พ.ย.นี้หากถนนเพชรเกษมในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครไม่ได้รับผลกระทบจาก ปัญหาน้ำทะเลหนุนและไม่มีน้ำจากพื้นที่อื่นๆ ทะลักเข้ามาก็จะสามารถใช้รถทุกชนิดสัญจรได้ตามปกติตลอดสายทั้งฝั่งขาเข้า และขาออก

ขณะที่บรรยากาศภายในหมู่บ้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นชุมชนแออัดพื้นดินมีลักษณะเป็นแอ่งเก็บน้ำและระดับความสูงต่ำกว่าผิวการจราจรถนนเพชรเกษมมาก พบว่า น้ำยังขังอยู่ตลอดซอยบางช่วงมีความสูงมากถึง 1.20 เมตร รถชาวบ้านทุกชนิดไม่สามารถแล่นผ่านได้ จะมีก็แต่รถยีเอ็มซีของทหาร รถบรรทุก 10 ล้อของตำรวจ องค์กรการกุศล และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ระดมสิ่งของอุปโภค-บริโภค อาหารปรุงสำเร็จและถุงยังชีพเข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยังหลงเหลืออยู่หลายพันคน เท่านั้นที่วิ่งกันขวักไขว่ เข้า-ออก ซอยแห่งนี้ตลอดทั้งวัน 

โดยจุดนัดพบของชาวบ้านที่มารอรับของบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาตั้งแต่ช่วงเช้า อยู่ที่สนามเด็กเล่นกลางหมู่บ้านเศรษฐกิจทำให้ได้เห็นภาพเด็กๆ คนชรา และแม่ลูกอ่อนพาลูกน้อยใส่เรือหรือภาชนะลอยน้ำที่พอหาได้เดินทางมารอรับแจก สิ่งของกันเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับต้องป้อนนมลูกบนเรือให้สามีลากมายังจุดหมาย แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังมีรอยยิ้มสู้กล้องเนื่องจากเริ่มชินชากับสภาพชีวิต ที่ต้องอยู่กลางน้ำเน่ามานานนับเดือนแล้ว

 

โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

22 พฤศจิกายน 2554, 20:26 น.

http://m.thairath.co.th/content/region/218444

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น