กระทรวงแรงงานเตรียมเสนอรัฐบาลของบช่วยเหลือโครงการรักษาสภาพการจ้างลูกจ้าง 6 พันล้านบาท ครอบคลุมลูกจ้างในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย 6 แสนราย
นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน แถลงข่าววันที่ 18 ตุลาคมว่า ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติกระทรวงแรงงานมีมติ จะจัดทำประมาณการการสนับสนุนเงินแก่สถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการเพื่อรักษาสภาพการจ้างลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมไปสักระยะหนึ่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขแก่นายจ้างที่จะเข้าโครงการก่อน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า นายจ้างที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐจะนำเงินนี้ไปรักษาสภาพการจ้างงานให้กับลูกจ้างที่ประสบภัย
ในเบื้องต้น ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติกระทรวงแรงงานจะเสนอของบประมาณจากรัฐบาลจำนวนเงิน 5-6 พันล้านบาท เพื่อมอบให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการรักษาสภาพการจ้างงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปดูแลลูกจ้างที่ประสบภัยในครั้งนี้ เป็นระยะเวลา 3 เดือนๆ ละ 3,000 บาทต่อราย ซึ่งคาดว่ามีลูกจ้างที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้ประมาณ 6 แสนคน
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงแรงงานยังไม่ได้ระบุว่า จะนำข้อเสนอนี้มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อไร
อีกด้านหนึ่ง สำหรับผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม (สปส) ได้ขอความร่วมมือกับสถานพยาบาลประกันสังคมให้บริการการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยและไม่สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ โดยไม่เรียกเก็บค่าบริการทางการแพทย์จากผู้ประกันตนได้ โดยให้สถานพยาบาลเบิกค่าบริการทางการแพทย์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ เขตพื้นที่ที่สถานพยาบาลตั้งอยู่โดยตรง และสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัดสาขา/ที่ท่านสะดวกหรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)
โดยนโยบายของสำนักงานประกันสังคมดังกล่าวได้รับการขานรับจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งน.พ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยว่า มีโรงพยาบาลเอกชนกว่า 40 แห่งสำหรับผู้ประกันตนและที่อยู่ในโครงการหลักประกันสุขภาพ สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล แบ่งเป็น 4 โซน
โซน 1 จ. นนทบุรี รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ,รพ.วิภาราม - ปากเกร็ด จ.ปทุมธานี รพ.แพทย์รังสิต, รพ.ภัทร-ธนบุรี , รพ.เอกปทุม , รพ.นวนคร , รพ.ปทุมเวช จ.พระนครศรีอยุธยา รพ.ราชธานี , รพ.ศุภมิตรเสนา , รพ.นวนคร อยุธยา จ. สระบุรี รพ.เกษมราษฎร์ สระบุรี
โซน 2 ฉะเชิงเทรา รพ.จุฬารัตน์ 11 , รพ.โสธราเวช กรุงเทพตะวันออก รพ.สายไหม , รพ.นวมินทร์ 1 , รพ.นวมินทร์ 9 , รพ.บี.แคร์ , รพ.ลาดพร้าว ,รพ.วิภาราม ,รพ.เกษมราษฎร์ สุขาภิบาล 3 , รพ.จุฬารัตน์ 3, รพ.จุฬารัตน์ 9 , รพ.บางนา 2 , รพ.รวมชัยประชารักษ์
โซน 3 แถบตะวันตก รพ.มหาชัย 1 , รพ.มหาชัย 2 , รพ.แม่กลอง , รพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล รพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล , รพ.เกษมราษฎร์ บางแค , รพ.บางไผ่ , รพ.นครธน , รพ.บางมด , รพ.บางปะกอก 9
โซน 4 สมุทรปราการ รพ.สำโรงการแพทย์ , รพ.เมืองสมุทร , รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้า , รพ.เปาโลสมุทรปราการ , รพ.รัทรินทร์ ,รพ.ศิครินทร์, รพ.บางนา 1
ขณะที่ "ดร.วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์" ผู้อำนวยการวิจัยด้านหลักประกันสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เสนอให้กองทุนประกันสังคมใช้กลไกการประกันการว่างงานในการช่วยเหลือลูกจ้างที่ต้องหยุดงานเพราะสถานประกอบการหยุดดำเนินการเพราะภัยน้ำท่วม และเป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคมที่เคยสมทบเงินประกันสังคมมาก่อน ไม่ใช่ลูกจ้างทั่วไป โดยให้สถานประกอบการในเขตน้ำท่วมแจ้งแก่สำนักงานประกันสังคมถึงจำนวนวันที่หยุดดำเนินงาน เพื่อใช้ในการคำนวณเงินชดเชยกรณีว่างงาน
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกองทุนประกันการว่างงานมีเงินสะสมมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท เงินจำนวนนี้สะสมไว้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกงานด้วยเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ หรือโรงงานต้องหยุดดำเนินการเพราะภัยพิบัติ ถ้าเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ลูกจ้างตกงานชั่วคราวประมาณ 2 แสนคน กองทุนประกันสังคมจะต้องใช้เงินประมาณ 600 ล้านบาทเพื่อจ่ายเงินชดเชยประมาณ 30 วันให้แก่ผู้ตกงานเหล่านั้น เงินชดเชยนี้เป็นสิทธิของผู้ประกันตนที่สมทบทุกเดือนเพื่อประกันการว่างงาน และการว่างงานด้วยเหตุภัยพิบัติเป็นเหตุที่กองทุนประกันการว่างงานควรที่จะคุ้มครอง ด้วยเงินชดเชยเป็นเงินไม่มาก คือร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ซึ่งเป็นการช่วยบรรเทาภาระด้านการเงินได้ระดับหนึ่ง
ด้านเครือข่ายแรงงานไทยได้มีมาตรการช่วยเหลือเพื่อแรงงาน โดยเป็นตัวกลางช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยการขอระดมรับบริจาค สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ตามศูนย์แรงงานกลุ่มย่านสหพันธ์แรงงานและสมาพันธ์แรงงาน จำนวน 10 ศูนย์ หรีอบริจาคช่วยเหลือได้ทางบัญชีชื่อ มูลนิธิพิพิธพัณฑ์แรงงานไทย บัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่ 101-7-97864-2 ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงานใหญ่สีลม โดยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมดจะนำไปมอบให้ผู้ใช้แรงงาน ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น